อันนี้จริง สมัยนี้ สถาบันน่าเคารพตรงไหน มีผลงานหรือสร้างประโยชน์อะไรให้แก่ประชาชน มันต้องเป็นหน้าที่รัฐ ไม่ใช่หรอ

ถามจริง**

งั้นถามกลับ ปู่ย่าตายาย เธอสร้างประโยชน์ต่อชุมชนมาเห็นเด่นชัด ต่อมารุ่นเธอคือสานต่อ แล้วมีคนบอก มีประโยชน์อะไร เธออ่ะมีประโยชน์อะไร เธอจะตอบว่ายังไง

เดี๋ยวก็เจอผลงานเก่าๆเขาหรอก

แล้วมีคนด่าครอบครัวเธอ เธอจะว่ายังไง

มันก็เหมือนกันแหล่ะ เราดันเกิดทีหลัง ไม่ได้ ไปทำให้เห็นเหมือนคนเกิดก่อน

คนอื่นๆที่เกิดมาพร้อมๆเรา เคยเลยไม่เห็น ว่าเราทำ

ครอบครัวเราเสียภาษีและทำตามกฎหมายไม่ละเมิดสิทธิ์ใคร

แค่นั้นก็พอแล้วในหน้าที่พลเมือง

กลับไปหาข้อมูลดูสิ ฟังแต่เขาพูดจะไปรู้จริงได้ยังไง ว่างๆ ลองลงพื้นที่ไปดูก็ได้

ดูอะไรก็พูดดีกว่าเป็ดถ้าบอกให้กลับไปหาข้อมูลก็ไม่ต่างจากไม่พูดอะไร

ก็ดูว่าเขาด่าเพราะอะไร เขาด่าเราหรือครอบครัวเรากันแน่ เขาตั้งคำถามกับครอบครัวเราเพราะอะไร

อยากรู้เหมือนกันว่ามีประโยชน์อะไร ที่พิมพ์มายังไม่บอกถึงประโยชน์ของกษัตริย์เลย

หมู คนในนี้ก็บอกกันเยอะแล้ว แต่มันจะไม่ตรงกับที่เด็กๆ ได้ยินมา จะยอมรับได้เหรอ

ครอบครัวกุไม่ได้เอาเงินภาษีมาใช้

ปู่ย่าตายายที่สร้างความดีมาแล้วไง แล้วเราทำบ้างไหม ไม่ใช่เพราะเราเกิดทีหลังสักหน่อย

พูดในโพสก็บอกในโพสเถอะเป็ดมีอะไรถกกันได้

จะให้เราเล่าอีกรอบก็ได้ เอาสั้นๆ บางประเด็นแล้วกัน

งั้นเราก็อ้างได้นะว่าคนในนี้ก็บอกไปเยอะแล้วแต่มันไม่ตรงกับเป็ดก็ได้

ใจเย็นหมูฟังเป็ดก่อนก็ได้อยากรู้เหมือนกัน

okอยากฟังเหมือนกัน

ก่อนอื่น เราแก่แล้ว ข้อมูลที่แชร์กัน รูป คลิป เราเห็นมาก่อนที่เด็กๆ หลายคนเกิดอีก

เราว่าในอดีตสื่อไม่เผยแพร่นะหรือจะสืบค้นเองจะสืบยังไง

โครงการก็เงินรัฐ

แต่เราไม่ได้รู้สึกแย่ไปมากกว่าเดิมเพราะช่วงนั้น เราก็ไม่ศรัทธา คิดว่าทุกอย่างเป็น propaganda

เมื่อก่อนเขาส่งกันทางเมล fwd mail อะจ้าหมู

งบประมาณกษ ก็ให้ทุกปี

ภาษีประชาชน

เราก็ไม่ได้เด็กขนาดนั้นนะก็ผ่านยุคที่Internetไม่ได้เข้าถึงทุดคนมา

คือสมัยนั้นคนร้องไห้ ทรงพระเจริญ กูนี่นั่งเงียบๆ น้ำตาไม่เคยไหล มีแต่คำถามในใจ แต่สมัยนั้นไม่มีทวิตให้ไประบายแบบนี้

ไหนบอกรวยทำไมต้องขอจากรัฐอีกแล้วเอาไปเครมเป็นบุญคุณ

แล้วสมัยนี้ล่ะ

ทุกรู้ว่าข่าวเหมือนก่อนมันด้านเด่ียวและยากต่อการเข้าถึง

เอาภาษีประชาชน ไปเป็นบุญคุณตัวเองตลกไปนะ

แล้วกูก็เป็นร่านในใจมาตลอดอะ จนถึงทุกวันนี้ 555

จบแบบนี้จะตลกไปปะ 555

สรุปคืออะไร?

ก็คือกูไม่ได้ปลื้มอะไรมากมาย จนกระทั่งทำงานไปซัก 20 ปี แล้วมีงานที่ต้องไปพัฒนาชุมชน คล้ายๆ csr

คือกูก็คิดงานแล้วไปทำ ไปเสนอ แต่มันก็เฟล ไม่สำเร็จ

จนบริษัทกูเค้าไปพาคนจากบริษัทใหญ่เบิ้มๆ มาคุยให้ฟัง

เล่ายาวจังเหมือนมีแต่น้ำขอบทสรุปเลยได้ปะ

เป็นกลุ่มคนที่เคยลงไปพัฒนางานชุมชนนึงจนสำเร็จมาแล้ว เค้าเลยมาเล่าให้ฟังว่าเค้าทำยังไง

ได้ๆ เห็ด สรุปก็คือเค้าเอาศาตร์พระราชา กับหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปทำ แล้วมันสำเร็จ

บอกให้เป็ดเราไปค่ายเกษตรมาแล้ว

ศาสตร์พระราชา

แต่เค้าก็เล่าละเอียดนะ กว่ากูจะเข้าใจ คือมันก็ใหม่สำหรับกู

อย่ามาเล่าเลย

มันตลก

เคยได้ยินมาบ้าง แต่พอได้เห็นวิธีการทำจริงๆ ถึงได้เข้าใจ แล้วมันเชื่อมโยงกับหลักทำงานที่เราเคยเรียน เคยรู้มาตลอด 20 ปีไดเ

สำหรับเรา สิ่งที่กษัตริย์ให้ไว้ ไม่ใช่โครงการ 4000 กว่าโครงการ แต่เป็น 2 หลักนี้มากกว่า

บอกเหตุผลมาหน่อยทำไมต้องเอาภาษีประชาชนไปทำโครงการ

เพราะกูก็ร่าน กูไม่เชื่อหรอกว่า 4000 โครงการ มันจะสำเร็จจริงได้ซักเท่าไหร่

ถามว่าท่านดียังไง เราก็ตอบตามนี่แล้วกัน เป็นมุมของเรา

บอกเหตุผลมาหน่อยทำไมต้องเอาภาษีประชาชนไปทำโครงการ

โอเคจบนะเราเห็นแย้งประมาทสองเรื่อง

แล้วโปรโมทเป็นของตัวเอง

แต่เป็นเงินของรัฐ

จากภาษีประชาชน

และตรวจสอบรายจ่ายไม่ได้

1.การที่บอกว่า4พันโครงการจับต้องไม่ได้มีอย่างอื่นที่ดีกว่า นั้นคือการบอกว่าเม็ดเงินที่ไปทั้ง4พันโครงการไร้ค่า

ครูสอนถูก แต่นักเรียนทำข้อสอบผิด จะสรุปว่าเงินที่จ้างครูไป มันไร้ค่ามั้ย

ตอบข้อ 1 ก่อนเนอะ คือมันมีหลายปัจจัย

2.เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเพียงแนวคิดระดับจุลภาคถ้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจไม่อาจจะไม่เหมาะสมอย่างสำหรับผู้ดำเนินกิจการ

ถามว่าเอาเงินจากประชาชนไปทำทำไม

ตอบข้อ 2 หมี

ยิ่งไม่เหมาะสำหรับsmeเปิดใหม่

อย่างแรก ศก. พพ มันเป็นหลักการใช้ชีวิต

ไม่ตอบเราหละ

ถูกมันยึดหลักมั่นคงแตยั่งยืน

มันอิงบนวิธีคิด หลักการหลายๆ อย่าง เช่น ทางสายกลาง การบริหารความเสี่ยง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร

ไม่เหมาะกับระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม

ที่เอามาพูดสมัยนั้นแล้วฮือฮากัน ต้องดูบริบทคนฟัง กับสถานการณ์ตอนนั้นด้วย

ไม่ตอบเราหละ

สมัยนั้นเป็นช่วงวิกฤติ 40 แล้วชาวบ้านแย่กันหมด ท่านจึงเอาหลักนี้มาเล่าให้ฟัง ในภาษาที่ชาวบ้านเข้าใจได้ เอาไปใช้ได้

ทำไมไม่ตอบเรา

ขืนเอาใครซักคนบรรยาย risk management ให้ชาวนา มันคงไม่ได้ผล พอนึกออกเนอะ

นั้นเท่ากับให้ชาวบ้านย่ำอยู่กับที่

ทำไมไม่ตอบ

หมูให้เป็ดมันตอบเราที

ทีนี้เนื่องจากพื้นฐานของ ศก. พอเพียง มันก็คือ ทางสายกลาง กับ risk management

หลักระบบทุนนิยมคือใครไปถึงBlue oceanก่อนคนนั้นชนะ

มองลงไปอีก ทางสายกลางกับ risk management มันก็เรื่องเดียวกัน

ซึ่ง risk management เป็นเรื่องที่ทุกบริษัท (โดยเฉพาะใหญ่ๆ) ทำ บริษัทเล็กๆ รวมถึงเราเองก็ควรทำ

เท่ากับว่าถ้าให้ชาวบ้านพัฒนาแต่สิ่งที่ตนมีและไม่กล้าได้กล้าเสี่ยงชาวบ้านจะอยู่บนRed oceanไปตลอดชีวิต

ดังนั้น เราไม่ต้องสน ศก. พอเพียงก็ได้ เพราะหลักใหญ่ๆ มันคือ risk management นั่นแหละ

ถ้าไม่กล้าเสี่ยงsmeก็ไม่โต

มุกนี้ไม่ผ่านนะแค่นี้ตอบไม่ได้ แล้วมาบอกว่าเคยมาก่อน

เราก็แค่จับเอาหลัก risk management มาใช้ก็พอ

หมูแดงเข้าใจเรื่อง risk management รึป่าว เราอธิบายคร่าวๆ ให้ได้นะ

ถ้าไม่กล้าเสี่ยงก็ไม่มีคนอย่างต๊อบ เถ้าแก่น้อย

เปลี่ยนอดีตมาโน้มน้าวคนมุกพื้นๆ

ทำ RM ไม่ใช่ว่าห้ามเสี่ยงเนอะ

การจำกัดความเสี่ยงอะนะ

ไม่ต้องอธิบายเสียเวลา

แต่มันเริ่มจากการ define risk appetite หรือระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ก่อน

แค่เรื่องเมกเซ้นธรรมดายังไม่กล้าตอบ

ตรงนี้แต่ละคน แต่ละบริษัทไม่เท่ากัน

แต่ก้าวไปทำในสิ่งที่ตนริเริ่มโดยไม่มีทุนเดิมนั้นก็เสี่ยงนะ

ก็เสี่ยงกันไป ตามที่ตัวเองจะรับไหว เพราะไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมทุ่มหมดหน้าตัก แล้วเกิดพังขึ้นมาจะยังอยู่ไหว

ถ้าคิดแบบเศรษฐกิจพอเพียงStartupจะไม่มีวันเกิด

ถ้าคุณอยู่ในระบบบริษัทแน่นอนมันไม่เสี่ยงหรอก