YelloTalk
Home
Live Feed
Privacy Notice
Open Source License
Terms
FAQs
Back
ทั่วไป |
จะแต่งตัวยังไงก็ได้ คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์มากคุกคาม คำถามคือคนที่มันคุกคามมันใช้สิทธิ์ที่ละมึง ปัญญาอ่อน มึงพวกนั่นมันไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว
โลกนี้ถึงมีกฏหมายอยู่ค่ะ จบ
เพื่อนแฟนเห็นผญใส่สายเดี่ยวแล้วนมมันก็จะตู้มๆ พุดว่า มึงใส่มาให้กูดูกูก็ดู กูบอกความคิดมึงนี่ทุเรสมาก
ถ้าไม่สามารถปฏิบัติภายใต้การให้เกียติบุคคลร่วมสังคม โลกนี้เขาก็มีกฏหมาย ฟ้องได้ ก็รับผลไป
พูดคุกคามผญที่แต่งตัวsexyแล้วใช้คำลงท้ายว่า ก็มึงแต่งมาทำไม แต่งมากูก็ดู
ถ้ามึงรู้อยู่แล้วว่ามึงคนแบบนั้น แล้วตัวมึง เพิ่มปัจจัยเสี่ยง ก็ต้องยอมรับว่ามึงก็มีส่วนผิดที่ทำให้มันเกิดขึ้นด้วยไม่ใช่
ถ้าเป็นการกระทำที่สามารถทำได้ สังคมไม่ออกกฏหมายที่เซฟให้หรอกค่ะ อยากปากแจ่วคุกคามไป ก็สิทธิของคุณ คนอื่นเขาฟ้องแจ้งความก็สิทธิของเขาเช่นกัน ง่ายๆ
กูเบื่อคำว่า บรรทัดฐานสังคมและกุลสตรีมาก
อยากใส่เหี้ยไรสวยๆก็ไม่ได้เลยต้องระวังตัวเอง
แต่คนแต่งตัวไม่โป๊ ก็โดนคุกคามนะ คนแต่งตัวปกติ เสื้อเกงขายาวก็โดนข่มขืน แล้วเหยื่อข่มขืนก็แต่งตัวปกตินะ แล้วสรุปตัวชี้วัดนี้ใช้ได้หรอ ที่บอกว่ามีส่วนผิด ผิดตรงไหนอะ
ความผิดคือการที่ไปกระทำให้คนอื่นเดือดร้อนหนิ การแต่งตัวไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน และไม่ใช่ผชทุกคนจะมาคุกคามข่มขืนกับคนที่แต่งตัวโป๊หนิ
ทำไมผชคนอื่นเขาทำได้อะ เพราะเขาทำสิ่งที่ถูกต้องใช่ป่ะ แล้วสรุปความผิดไปอยู่ที่ใคร ก็อยู่ที่คนทำสิ่งไม่ถูกต้องไง แล้วทำไมคนที่แต่งตัวถึงมีส่วนผิด หมีเอ๋อไรมาป่ะ
เคยเห็นรูปชุดของเหยื่อที่ถูกข่มขืน กางเกงขายาวเสื้อยืดก็โดนข่มขืนได้
คนที่เขามี mindset รู้ความผิดถูกเขาก็รู้โดยทั่วกัน ประเด็นนี้ มีแต่คนที่หาข้ออ้างในการโปรเทคการทำผิดตัวเองอะ 55555555
ก็ถ้าเพิ่มปัจจัยเสี่ยงขึ้นมาเอง ก็ตามสบายนั่นแหละ บางอย่างกันไว้ดีกว่าแก้_
เพราะไอพวกที่มันคุกคาม มันไม่สนใจเหตุผลของมึงหรอก
อันนี้ต้องกลับไปทบทวน กระบวนการคิด แยกแยะ วิเคราะห์ หรือมี่เรียกว่า mindset ตัวเองดูว่ามันบิดเบี้ยวตรงไหน ถึงได้มีความคิดเบลมเหยื่อ แล้วโทษการแต่งตัวว่าเพิ่มปัจจัยเสี่ยง
เขาถึงได้มีผลการชี้วัด การทำวิจัย กลุ่มตัวอย่าง ไปหาอ่านสิ พิพิธพันธ์อะไรก็มีนะทั้งไทยและต่างประเทศ ถึงคำว่าที่ การแต่งตัวของผญเป็นเหตุในการเกิดการคุกคามและข่มขืนหรือไม่
ผลการชี้วัดออกมาว่าไม่ใช่นะ ศึกษาเพิ่มเติมดู นี่ปาเปเปอร์การวิจัยมาตอบเลยนะ แบบที่ไม่ใข่คิดไปเองเหมือนหมีอะ
จริฃๆผลออกมาว่า การแต่งตัวไม่ได้เพิ่มปัจจัยเสี่ยงนะ ไปศึกษาเพิ่มดีกว่า ว่าคนร้ายหรือผชเลือกเหยื่อจากอะไร จากเสื้อผ้ารึป่าว555555555
เอ้า โพสหมีตอนแรกสื่ออะไร ตอนแรกเข้าใจว่าจะว่าให้พวกคุกคาม แต่เม้นอัน2เบลมเหยื่องี้หรอ
อัพเดตความรู้ทีถุกต้องนิดนึง อันนี้มันคือค่านิยมเก่าแล้ว ค่านิยมที่กดขี่เพศหญิงเรื่องการแต่งตัวให้ต้องเรียบร้อย แล้วอ้างว่าจะไม่โดนผชคุกคาม
แต่ในผลการวิจัยและการทดลอง การแต่งตีวไม่ได้เพิ่มปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการข่มขทนหรือคุกคามนะ
แล้วมาบอกให้ยอมรับว่ามีส่วนผิด คืออะไร ได้เรียนเรื่องเสรีภาพในการแต่งตัวรึป่าว มันไม่มีใครเป็นส่วนผิดจากการแต่งตัวนะ เราลองไปทำความเข้าใจเยอะๆ
ส่วนคำว่ากันดีกว่าแก้ มันคือช้อยอีกทางเลือกนึงให้สำหรับเซฟตัวเอง แต่หากไม่เลือกช้อยนี้ เลือกแต่งตัวตามเสรีภาพ ก็ไม่สามารถได้อภิสิทธิไปคุกคามข่มขืนใคร
และยิ่งไปกว่าก็ไม่ได้ถูกตราหน้าว่ามีส่วนผิดนะ ส่วนถ้าสะดวกจะคุกคามเขา โลกนี้ก็มีช้อยทางเลือกเซฟผู้ที่โดนอยู่คือกฏหมายไง โรงเรียนไหนสอนความิดพวกนี้หมีมา บ้านหนองงูเห่ารึ
ใครสะดวกช้อยไหน ก็ตามความสะดวกเลย สะดวกเลือกช้อย แต่งมิดชิดเซฟตัวเอง สะดวกเลือกช้อยเสรีภาพในการแต่งตัว ไม่มีผิดนะ 5555555 เข้าใจอะไรซะใหม่
คนที่ไปคุกควมอ่ะ ไม่มันสนใจเรื่องสิทธิอะไรอยู่แล้ว แล้วก็ ถ้าเพิ่มปัจจัยเสี่ยงขึ้นมาเอง แล้วรู้ตัวอยู่แล้วว่า มันเสี่ยง
รับผิดชอบชีวิตตัวเอง
แต่จากใจ เป็นคนแต่งตัว sexy นะคะ ไม่ค่อยโดนการคุกคามเลย ทั้งในโซเชียลและชีวิตจริง อาจจะเพราะสังคมไม่ได้ตลาดล่างด้วย แบบคนรอบข้างค่อนข้าบมีการศึกษากันหมด
มันก็เป็นผลพ่วงให้แต่บะคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีทัศนคติที่ถูกต้องอะ เคยโดนก็ตอนรถเสีย มีเหตุจำเป็นต้องขึ้นวิน โดนมองแปลกๆ
ปต่ก็ลองวิเคราะห์ดูนะว่าจริงๆแล้ว อะไรคือปัจจัยเสี่ยง การแต่งตัวหรอ หรือการศึกษาและคุณภาพชีวิตที่เติบโตมา ไม่ได้รับการถูกสั่งสอนดีเท่าที่ควร อะนนี้ก็ฝากให้ไปศึกษาเพอ่ม ถ้าสนใจเรื่องนี้
แต่การแต่งตัวไม่ได้เพอ่มปัจจัยเสี่ยงนะ เพราะผลออกมา การแต่งตัวปกติ เสื้อกางเกง โดนคุกคามและข่มขืนมากกว่า
เพราะงั้นต้องปัดตกนะ แนวคิดงี้555555 มันสวนทางกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นนะคะ
รับผิดชอบชีวิตตัวเองอะถูกต้อง จะแต่งตัวแบบไหนก็ต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองอยู่แล้วในไทยแลนด์ แต่ไปบอกว่ามีส่วนผิดอะ มันไม่ใช่5555555
ถ้าการแต่งตัวเรียบร้อยมันทำให้เราปลอดภัย คงไม่มีเด็กคนไหนถูกข่มขืนในชุดนักเรียน
และอีกหนึ่งข้อพิสูจน์หนึ่งที่ยืนยันว่าทุกคนมีความเสี่ยงไม่ต่างกัน คือ การศึกษาเกี่ยวกับความรุนแรงทางเพศย้อนหลังไป 13 ปี ผ่านข่าวกว่า 1.7 หมื่นข่าว
ของกฤตยา อาชวนิจกุล จากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล ที่เปิดเผยต่อสาธารณะในปี 2557
ระบุว่าประมาณ 68% เป็นข่าวเกี่ยวกับการข่มขืน ซึ่งพบว่าเหยื่อมีอายุตั้งแต่ 8 – 105 ปี ในสถานที่เกิดเห็นต่างๆ กัน
แสดงให้เห็นว่า คนทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกระดับการศึกษา สามารถถูกข่มขืนได้หมด ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการแต่งตัว
อันนี้ความรู้ใหม่สำหรับหมีทั้งนั้นลยนะ ถ้าไม่อคติลองอ่านดู
รวมไปถึงหลายองค์กรทั่วโลกยังคงรณรงค์อย่างต่อเนื่องว่าการแต่งตัวของเหยื่อไม่ได้เป็นการเชื้อเชิญให้เกิดล่วงละเมิด
และการข่มขืนเป็นอาชญากรรมที่เกิดจากความต้องการจะแสดงกำลังเหนืออีกฝ่าย และการแต่งตัวของผู้หญิงไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้อาชญากรรมเหล่านี้เกิดขึ้น
มันเพิ่มปัจจัยเสี่ยงไง ถ้ารู้อยู่แล้ว แต่ยังทำ....ก็ต้องรับผลที่อาจเกิดขึ้นด้วย ว่าตัวเองก็มีส่วน
ไม่ได้อ่านหรอว่าผลทดสอบ การแต่งตัวไม่ได้เพิ่ท...
ทำไมยังยัดเยียดจากความเชื่อตัวเองอยู่ได้ 55555 ทั้งๆที่ปาผลทดสอบให้ว่า มันไม่ได้เพิ่ม
แปลกคน
แรดพิมพ์เร็วมาก
หมีมึงเป็นไรมากป่ะ
ออกจากชุดความคิดเดิมๆ แล้วเปิดหูเปิดตาดูผลวิจัย ผลการทดสอบนู้น จะได้รู้ว่ามันสวนทางกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น พิมมือจะหงิก ก็ยังวนเวียนแต่มันเพิ่มๆๆ เอามาจากไหนนิ แปลกๆแก
ความคิดเหมือนคนแถวบ้านกูเลย โคตรไม่ชอบ เบลมเหยื่อทำเหี้ยไรอะ
นอกจากเบลม แล้วยังไม่รับข้อมูลใหม่ๆด้วย ดักดานกับความเชื่อเดิมๆ แปลกมาก
จริงแรด ตรรกะไรมัน บ้ง
อยู่กทมมั้ยจะพาไปเดินพิพิธภัณฑ์ชุดเสื้อผ้าเหยื่อการโดนล่วงละเมิกคุกคามที่สิริราช ไปม้ายยย
เดี๋ยวพาไป
จะได้รู้ว่า ผญที่โดนส่วนใหญ่แต่งตัวโป๊หรือปต่งตัวกันปกติ แล้วจะได้ข้อสรุปว่าการแต่งตัวเพิ่มความเสี่ยงจริงหรือไม่ ผู้เชียวชาญไรก็มี ไปถามขอคงามรู้ได้ เอาใหม่ เดะพาไปศึกษา
เอามั้ย*
เอ้อ แรดเรื่องพิพิธภัณฑ์ คนนอกเข้าฟรีไหม
ฟรี
แวะมาปรบมือให้แรด โลกต้องการคนแบบเธอ
ค้นพบประสบการณ์ใหม่
ในดินแดนไร้ตัวตน
Get it free on
Get it free on